พระอัฏฐารส
พระวิหารเก้าห้อง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
พิษณุโลก
สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านบทความที่แบ่งปันให้แก่ทุกท่าน
รู้จักใจ ฯ ตอนที่ ๖
*ธรรมชาติของใจ*
* สุข สงบ ร่มเย็น เพราะดูใจเป็น เห็นทุกข์ดับได้ *
คนที่มีความรัก เมื่อคิดถึงคนที่เรารักก็มักจะกังวลใจไปต่างๆ นานา ซึ่งมองเผินๆ แล้วอาจจะคล้ายกับว่ากำลังมีความสุข แต่หากลองสังเกตุเปรียบเทียบกันดูว่า *ใจของเราเมื่อยังไม่มีความรัก กับเริ่มมีความรัก แตกต่างกันหรือไม่* ก็จะพบว่าตอนที่ยังไม่รักใคร เราไม่ค่อยหงุดหงิด ไม่ค่อยโกรธ และไม่ค่อยร้อนใจ
แต่เมื่อเริ่มมีรัก ก็กลายเป็นคนขึ้น้อยใจ รู้สึกหงุดหงิด และเป็นกังวลได้ง่ายขึ้น เพราะนี่คือธรรมชาติของใจ เมื่อใจเข้าไปผูกพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว สิ่งนั้นก็จะทำให้ใจหงุดหงิด กังวล หวั่นวิตก หวาดระแวง กลัวสิ่งนั้นจะเป็นอะไรไป หากเป็นคนก็กลัวเขาจะปันใจให้คนอื่น
สรุปแล้ว ใจของคนเรานี้ ไม่ว่าจะคิดถึงเรื่องน่ารัก หรือเรื่องน่าเกลียดน่าชัง คิดถึงเรื่องอดีตหรืออนาคต ใจมีโอกาสเร่าร้อนเป็นทุกข์ได้เหมือนกัน หากเราไม่เลิกคิด ปล่อยให้เรื่องของอดีต เรื่องของอนาคต คนที่เรารักเราพอใจ คนที่เราเกลียด ขัดเคืองใจมาเผาใจเราอยู่ตลดเวลา เราก็จะเป็นทุกข์อยู่ตลอดไม่มีวันได้พบกับความสงบสุขสักที
พระพุทธเจ้าทรงทราบดีว่า *มนุษย์ทั้งโลก มีปกติผูกพันอยู่กับเรื่องในอดีต และอนาคตตลอดเวลา วางอดีต วางอนาคตไม่ได้ เป็นเหตุให้มนุษย์ส่วนใหญ่มีจิตใจที่เร่าร้อน*
พระองค์จึงเมตตาสงสาร และทรงแนะอุบายวิธีให้มนุษย์ได้พ้นจากความทุกข์เอาไว้ว่า *หากผู้ใดเร่าร้อนใจมามากพอแล้ว ต้องการจะสัมผัสกับความสุขบ้าง ก็ให้รู้จักพักผ่อนในด้วยการ [ฝึกพรากใจ]*
ตามธรรมชาติแล้ว เมื่อคิดถึงสิ่งที่เรารัก ใจย่อมพล่าน เร่าร้อน และเป็นทุกข์
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว่ว่า * คนเรามีสิ่งใดก็ย่อมกังวลใจเพราะสิ่งนั้น* มีบุตรย่อมทุกข์เพราะบุตร มีภรรยายอ่มทุกข์เพราะภรรยา มีสามียอ่มทุกข์เพราะสามี คนเรามีสิ่งใด รักสิ่งใด ก็ย่อมเป็นทุกข์ ย่อมกังวลใจ เพราะสิ่งนั้น ยิ่งมีมาก รักมาก ผูกพันกับสิ่งใดมากๆ ก็ยิ่งห่วงมาก กังวลมาก เป็นทุกข์มาก
ที่มา : หนังสือ * รู้จักใจ คือกำไรชีวิต * สำนักพิมพ์ อมรินทร์
พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษาราชนครินทร์
(เขาดินหนองแสง) อ.แก่งหางแมว จันทบุรี
คัดลอกโดย : ณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
@NuttanunWung
๐๘/๐๗/๒๕๕๔ ๑๑.๕๔ น.
http://Bkk06-Club
http://on.fb.me/BCS2506
http://bit.ly/NuttanunPage
http://twitter.com/NuttanunWung
Tweet
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น