การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง
สุขะโต สุขะทานัง
ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตน
บทความทั้งหมดนี้ คัดลอกจากหนังสือ
"คู่มือดับทุกข์ ฉบับสมบูรณ์" โดย ท่านอิสระ
"คู่มือดับทุกข์ ฉบับสมบูรณ์" โดย ท่านอิสระ
พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน บรรณาการโดยทุนของ.--
คุณพินิจ-คุณกิมเอ็ง แพ่งเกษร และลูก ๆ หลาน ๆ
ครอบครัว ร้านน้องเปิ้ล และพนักงาน
ปั้มเชลล์อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
ข้าพเจ้า นายณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
ข้าพเจ้า นายณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นทานแก่บุคคลทั่วไป
๑. จงประพฤติศิล ๕ ให้สมบูรณ์ ด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ทุกชนิด ไม่ขโมยสิ่งของ ๆ ใคร ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่โกหกหลอกลวงใคร และไมดื่มหรือเสพสิ่งเสพติดมึนเมา
๒. แบ่งเวลาในแต่ละวันให้พอเหมาะพอดีแก่สภาพชีวิตของตัวเอง มีเวลาเพียงพอ มีเวลาพักผ่อน เพลิดเพลินในครอบครัวตามสมควร สำหรับผู้ที่เป็นฆราวาส และมีเวลาฝึกสมาธิเพื่อทำจิตให้สงบ
๓. ในการฝึกสมาธินั้น ให้นั่งอยู่อย่างสงบสำรวม อย่าเคลื่อนไหวอวัยวะมือเท้า จะนั้งอยู่กับพื้น เอาขาทับขาข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ หรือจะนั่งพับเพียบก็ได้ หรือจะนั่งบนเก้าอื้ตามสบายก็ได้ ไม่มีปัญหา
๔. วิธีการฝึกสมาธินั้น ขอให้เข้าใจว่า ท่านจะทำจิตให้สงบ ปราศจากความคิดนึกปรุงแต่งในเรื่องภายนอกทุกอย่างชั่วระยะเวลาที่ทำสมาธินั้น ท่านจะไม่ปรารถนาที่จะพบเห็นรูป สี แสง เสียง สวรรค์นรก หรือเทวดาอินทร์พรหมที่ใหน เพราะสมาธิที่แท้จะมีแต่จิตที่สะอาดบริสุทธิ์ และสงบเย็นเท่านั้น
๕. พอเริ่มทำสมาธิโดยปกติแล้วให้หลับตาพอสบาย สำรวมจิตเข้านับที่ลมหายใจ ทั้งหายใจเข้าและหายใจออก โดยอาจจะนับ หายใจเข้านับ ๑ หายใจออกนับ ๒ อย่างนี้เรื่อยไป ทีแรกนับช้า ๆ เพื่อให้สติต่อเนื่องอยู่กับการนับนั้น แต่ต่อไปพอจิตสงบเข้าที่แล้ว มันก็จะหยุดนับของมันเอง
๖. หรือบางทีอาจจะกำหนดพุทโธก็ได้ หายใจเข้ากำหนด พุท หายใจออกกำหนด โธ ไม่ขัดแย้งกันเลย เพราะการนับอย่างนี้ก็เป็นเพียวอุบายที่จะทำให้จิตหยุดคิดนึกปรุงแต่งเท่านั้น
๗. แต่ในการฝึกแรก ๆ ท่านจะยังนับ หรือกำหนดไม่ได้อย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างตลอดรอดฝั่ง เพราะมันมักจะมีความคิดต่าง ๆ แทรกเข้ามาในจิต ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ช่างมัน ให้เข้าใจว่า ฝึกแรก ๆ มันก็เป็นอย่างนี้เอง แต่ให้ท่ารนตั้งนาฬิกาเอาไว้ตามเวลาที่พอใจ ว่าจะทำสมาธินานเท่าไร เริ่มแรกอาจจะทำสัก ๑๕ นาที ก็ได้ และให้เฝ้านับหรือกำหนดอยู่จนครบเวลาที่ตั้งไว้ จิตมันจะมีความคิดมากหรือน้อย ก็ช่างมัน ให้พยายามกำหนดนับตามวิธีการที่กล่าวมาแล้วจนครบเวลา ไม่นานนัก จิตมันก็จะหยุดคิดและสงบได้ของมันเอง
๘. การฝึกสมาธินี้ให้พยายามทำทุกวัน ๆ วันละ ๒-๓ ครั้ง แรก ๆ ให้ทำครั้งละ ๑๕ นาที แล้วจึงค่อยเพิ่มมากขึ้น ๆ จนถึงครั้งละ ๑ ชั่วโมง หรือมากกว่าานั้น ตามที่ปรารถนา
๙. ครั้นกำหนดจิตด้วยการนับอย่างนั้นจนมีประสบการณ์พอสมควรแล้ว ท่านก็จะรู้สึกว่า จิตนั้นสอาด สงบเย็น ผ่องใส ไม่หงุดหงิด ไม่หลับไหล ไม่วิตกกังวลกับสิ่งใดนั่นแหละคือสัญญลักษณ์ที่แสดงว่า สมาธิกำลังเกิดขึ้นในจิต
๑๐. เมื่อจิตสงบเย็น ไม่หงุดหงิดเช่นนั้นแล้ว อย่าหยุดนิ่งเฉยเสีย ให้ท่านเริ่มน้อมจิตเพื่อจะพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ต่อไป ถ้ามีปัญหาชีวิต หรือปัญหาใด ๆ ที่กำลังท่ำให้ท่านเป็นทุกข์กลัดกกลุ้มอยู่ ก็จงน้อมจิตเข้าไปคิดนึกพิจารณาปัญหา ด้วยความสุขุมรอบคอบ ด้วยความมีสติ
จบตอนที่ ๑ จำนวน ๑๐ ข้อ จาก ๑๐๕ ข้อ ตอนที่ ๒ จะนำมาเผยแพร่ต่อไปครับ
พิมพ์แจกเป็นธรรมบรรณาการ
โดยนายณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
http://nuttanun-wung.com/
๖ มกราคม ๒๕๕๓
๕. พอเริ่มทำสมาธิโดยปกติแล้วให้หลับตาพอสบาย สำรวมจิตเข้านับที่ลมหายใจ ทั้งหายใจเข้าและหายใจออก โดยอาจจะนับ หายใจเข้านับ ๑ หายใจออกนับ ๒ อย่างนี้เรื่อยไป ทีแรกนับช้า ๆ เพื่อให้สติต่อเนื่องอยู่กับการนับนั้น แต่ต่อไปพอจิตสงบเข้าที่แล้ว มันก็จะหยุดนับของมันเอง
๖. หรือบางทีอาจจะกำหนดพุทโธก็ได้ หายใจเข้ากำหนด พุท หายใจออกกำหนด โธ ไม่ขัดแย้งกันเลย เพราะการนับอย่างนี้ก็เป็นเพียวอุบายที่จะทำให้จิตหยุดคิดนึกปรุงแต่งเท่านั้น
๗. แต่ในการฝึกแรก ๆ ท่านจะยังนับ หรือกำหนดไม่ได้อย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างตลอดรอดฝั่ง เพราะมันมักจะมีความคิดต่าง ๆ แทรกเข้ามาในจิต ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ช่างมัน ให้เข้าใจว่า ฝึกแรก ๆ มันก็เป็นอย่างนี้เอง แต่ให้ท่ารนตั้งนาฬิกาเอาไว้ตามเวลาที่พอใจ ว่าจะทำสมาธินานเท่าไร เริ่มแรกอาจจะทำสัก ๑๕ นาที ก็ได้ และให้เฝ้านับหรือกำหนดอยู่จนครบเวลาที่ตั้งไว้ จิตมันจะมีความคิดมากหรือน้อย ก็ช่างมัน ให้พยายามกำหนดนับตามวิธีการที่กล่าวมาแล้วจนครบเวลา ไม่นานนัก จิตมันก็จะหยุดคิดและสงบได้ของมันเอง
๘. การฝึกสมาธินี้ให้พยายามทำทุกวัน ๆ วันละ ๒-๓ ครั้ง แรก ๆ ให้ทำครั้งละ ๑๕ นาที แล้วจึงค่อยเพิ่มมากขึ้น ๆ จนถึงครั้งละ ๑ ชั่วโมง หรือมากกว่าานั้น ตามที่ปรารถนา
๙. ครั้นกำหนดจิตด้วยการนับอย่างนั้นจนมีประสบการณ์พอสมควรแล้ว ท่านก็จะรู้สึกว่า จิตนั้นสอาด สงบเย็น ผ่องใส ไม่หงุดหงิด ไม่หลับไหล ไม่วิตกกังวลกับสิ่งใดนั่นแหละคือสัญญลักษณ์ที่แสดงว่า สมาธิกำลังเกิดขึ้นในจิต
๑๐. เมื่อจิตสงบเย็น ไม่หงุดหงิดเช่นนั้นแล้ว อย่าหยุดนิ่งเฉยเสีย ให้ท่านเริ่มน้อมจิตเพื่อจะพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ต่อไป ถ้ามีปัญหาชีวิต หรือปัญหาใด ๆ ที่กำลังท่ำให้ท่านเป็นทุกข์กลัดกกลุ้มอยู่ ก็จงน้อมจิตเข้าไปคิดนึกพิจารณาปัญหา ด้วยความสุขุมรอบคอบ ด้วยความมีสติ
จบตอนที่ ๑ จำนวน ๑๐ ข้อ จาก ๑๐๕ ข้อ ตอนที่ ๒ จะนำมาเผยแพร่ต่อไปครับ
พิมพ์แจกเป็นธรรมบรรณาการ
โดยนายณัฐนันท์ วังวีระนุสรณ์
http://nuttanun-wung.com/
๖ มกราคม ๒๕๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น